

ไทปิงจับมือบริษัทพรมยักษ์ใหญ่ Couristan Inc. ผลิตพรม Axminster เข้าตลาดอเมริกา เชื่อตลาดนี้ยังต้องการสินค้าคุณภาพมากกว่าราคาถูก เมินพรมจากประเทศจีน มั่นใจพันธมิตรการค้าช่วยเพิ่มศักยภาพการขายสู่ตลาดอินเตอร์ เพิ่มรายได้ในอนาคต
นายเฉลิมพันธ์ ศรีวิกรม์ ประธานบริษัท อุตสาหกรรมพรมไทย จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายพรมชั้นนำของประเทศ ภายใต้แบรนด์ ไทปิง และ Royal Thai เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ทำสัญญาเป็นพันธมิตรทางการค้ากับบริษัท Couristan จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายพรมชั้นนำของโลก ซึ่งมียอดจำหน่ายติดอันดับ 1ใน4 ของสหรัฐอเมริกา โดยการทำสัญญาดังกล่าว Couristan จะย้ายฐานการผลิตพรมมายังบริษัทอุตสาหกรรมพรมไทย ทั้งนี้ บริษัทฯ จะซื้อเครื่องจักรผลิตพรม Axminster จาก Couristan จำนวน 14 เครื่องในมูลค่าประมาณ 60 ล้านบาท ทยอยชำระค่าเครื่องจักรเป็นเวลา 10 ปี เพื่อผลิตพรมให้แก่ Couristan โดยที่ Couristan มีข้อผูกมัดที่จะสั่งซื้อพรม Axminster จากบริษัทฯ เพื่อส่งขายในตลาดสหรัฐอเมริกาและแคนาดาในปริมาณ 300,000 ถึง 500,000 ตารางหลาต่อปี หรือคิดเป็นเงินประมาณ 7-10 ล้านเหรียญต่อปี
ปัจจุบัน บริษัทฯ ผลิตสินค้าหลัก 4 ประเภท คือ พรมทอมือ, พรม Axminster, พรมทอจักร (Pass-Tuft) และพรมทอกี่ (Flat Weave) จำหน่ายภายใต้แบรนด์ไทปิง (Tai Ping) สำหรับตลาดภายในประเทศ ส่วนตลาดต่างประเทศนั้น ได้ส่งออกสินค้าภายใต้ แบรนด์รอยัลไทย (Royal Thai) โดยแบ่งสัดส่วนของตลาดในประเทศประมาณ 45% และตลาดต่างประเทศ ประมาณ 55% โดยลูกค้าต่างประเทศรายใหญ่ได้แก่ โรงแรมในเครือ Fairmont Group, Marriott Group, Ritz Carlton, Starwood Group, and Hilton Group โรงหนังเครือ Movico คาสิโน เช่น Bellagio, Venetian, and MGM และ อาคารใหญ่ต่างๆ ทั้งอาคารสำนักงาน และอาคารที่พักอาศัยประเภท คอนโด เซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ต่างๆ
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ส่งออกพรมเข้าไปในตลาดสหรัฐอเมริกา และ แคนาดา 4 ประเภท มีมูลค่ารวมประมาณ 3.91 ล้านเหรียญต่อปี ในส่วนของ พรม Axminster มีมูลค่าประมาณ 2.34 ล้านเหรียญ โดยผ่านตัวแทนจำหน่ายหลายราย ดังนั้นการร่วมมือกับทาง Couristan ในครั้งนี้ จะช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับบริษัทฯ โดยเฉพาะตลาดพรม Axminster ซึ่งเป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูง
ดร. ชาลี จังวิจิตรกุล กรรมการผู้จัดการ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการที่สินค้าของบริษัทฯ เป็นการผลิตตามความต้องการเฉพาะของลูกค้า หรือ custom made ดังนั้นจึงเป็นการทำงานระหว่างฝ่ายขาย กับดีไซเนอร์ ผู้รับเหมา หรือเจ้าของโครงการเป็นหลัก ไม่ได้วางจำหน่ายทั่วไป นอกจากสินค้าพรมชิ้นเล็กๆ (RUG) ที่มีวางจำหน่ายบ้างตาม ห้างสรรพสินค้าดัง เช่น Central Department Store ส่วนช่องทางการจัดจำหน่ายของ Couristan ลูกค้าหลัก มาจากโครงการใหญ่ๆ ในประเทศ สหรัฐอเมริกา และ แคนาดา
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในตลาดสินค้าประเภทพรม ทั้งในประเทศและต่างประเทศมีการแข่งขันในด้านราคาอย่างหนัก โดยเฉพาะสินค้าที่มาจากประเทศจีน พบว่ามีราคาถูกมาก เนื่องจากต้นทุนการผลิตต่ำ ซึ่งส่งผลกระทบกับบริษัทฯ ในตลาดเอเชีย แต่ในตลาดยุโรป อเมริกา และตะวันออกกลาง ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากตลาดเหล่านี้ต้องการสินค้าที่มีคุณภาพ ซึ่งเป็นจุดยืนของบริษัทฯ ที่มุ่งตอบสนองตลาดด้วยสินค้าที่มีคุณภาพ และบริการที่เป็นเลิศ โดยเป็นหัวใจหลักของการดำเนินธุรกิจที่มีมายาวนานกว่า 40 ปี
“ปัญหาวิกฤตการเงินในสหรัฐอเมริกา เชื่อว่าจะส่งผลกระทบไปทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย เนื่องจากประเทศสหรัฐเป็นกลุ่มผู้บริโภค อุปโภคหลักของโลกประเทศหนึ่ง แต่ในส่วนของผลกระทบที่มีต่ออุตสาหกรรมพรมไทยนั้น ทางบริษัทฯ ได้มีการเตรียมตัวรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น โดยการลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น และใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งทางด้านวัตถุดิบ และทรัพยากรบุคคล รวมถึงการพิจารณาเครดิตของลูกค้า” นายเฉลิมพันธ์ กล่าวในที่สุด

No comments:
Post a Comment